นายพิริยะ ธานีรณานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บ้านสวยกรุ๊ป (สุราษฎร์ธานี) จำกัด เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บ้านสวยกรุ๊ป เป็นบริษัท อสังหาริมทรัพย์ ในภาคใต้ ที่มีสินค้าหลากหลาย ครบทุกเซกเม้นท์ ทั้งโครงการที่อยู่อาศัย คอมมูนิตี้มอลล์ อาคารสำนักงานและโรงแรม โดยปีนี้วางแผนเปิด 12 โครงการ ไม่เฉพาะแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ล่าสุดได้ขยายการลงทุนไปที่อ่าวนาง จังหวัดกระบี่ มูลค่าลงทุนรวมประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 12 โครงการประกอบด้วยที่อยู่อาศัย คอมมูนิตี้มอลล์ และโรงแรม
ทั้งนี้ โครงการที่เปิดตัวมีคอมมูนิตี้มอลล์ “ซี สเคป” เป็นคอมมูนิตี้มอลล์แบบเปิดหรือโอเพ่นมอลล์แห่งแรกในสุราษฎร์ธานี อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลกรุงเทพ นอกจากนี้บนที่ดินแปลงเดียวกัน บริษัทยังได้พัฒนาเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ ให้บริการกับบุคลากร ของโรงพยาบาลโดยมี สัญญา 10 ปี
“เพราะจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีนโยบายจะเป็นเมืองสุขภาพ หรือเมดิคัล ซิตี้ ผมจึงชักชวนกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ มาเปิดที่นี่ เป็นโรงพยาบาลสูง 9 ชั้น จำนวน 200 ห้อง เริ่มเปิดบริการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2560 ซึ่งการเข้ามาของ โรงพยาบาลกรุงเทพ ทำให้ที่ดินบริเวณโดยรอบราคาปรับเพิ่มขึ้น จากไร่ละ 10 ล้านบาทต้น ภายในหนึ่งปี ขยับเป็นไร่ละประมาณ 20 ล้านบาท”
อีกโครงการชื่อ วัน อ่าวนาง บนที่ดินผืนสุดท้ายใจกลางอ่าวนาง ที่บริษัทถือกรรมสิทธ์ ลักษณะกายภาพ ของทำเลเป็นบนเนินเขาและไล่ระดับสูงขึ้นๆ วางแผนพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส มีอาคารสำนักงานและโฮสเทล โดยช่วงเนินเขาขึ้นไปจะสร้างอาคารสูง 5 ชั้น เป็นกลุ่มๆ มีทั้งหมด 40 คูหา มูลค่าโครงการส่วนนี้กว่า 600 ล้านบาท ราคาขายคูหาละ 10-20 ล้านบาท ส่วนบนเนินสูงสุดของโครงการ จะพัฒนาเป็นศูนย์รวมร้านอาหาร ระดับพรีเมียม นอกจากนี้ยังมีโฮสเทล และร้านขายของที่ระลึก ซึ่งขณะนี้ เร่งออกแบบโครงการ คาดว่า สามารถเปิดขายในส่วนอาคารสำนักงาน ได้ประมาณเดือนมิถุนายนนี้ สำหรับโครงการ วัน อ่าวนาง จะปั้นให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกระบี่
นอกเหนือจากนี้ยังมีโครงการที่อยู่อาศัยอีก 9 โครงการ มีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ โฮมออฟฟิศ และรูปแบบใหม่ล่าสุดโฮมแวร์เฮ้าส์ เป็นทั้งที่เก็บสต๊อคสินค้าและที่พักอาศัยอยู่ในอาคารเดียว โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 500 ล้านบาท ส่วนยอดขายตั้งไว้ที่ 1,200 ล้านบาท โดยมียอดขายรอรับรู้รายได้ประมาณ 500 ล้านบาท
“ผมมีเป้าหมาย จะเป็นบริษัทอสังหาฯ ของภาคใต้ที่เข้าจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ หลังจากราคายางพาราลดลงอย่างแรง ทำให้ยอดขายบ้าน ได้รับผลกระทบไปด้วย จึงหันมาเพิ่มสินค้า และกระจายหลายพื้นที่ ที่บริษัทมีความชำนาญ หรือพื้นที่เฉพาะ เช่นที่อ่าวนาง ทำให้การดำเนินธุรกิจของบริษัท มีความหลากหลายรูปแบบ ในปัจจุบัน”
นายพิริยะ กล่าวและเสริมว่า ขณะนี้แผนการจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความคืบหน้า ในเดือนมิถุนายนนี้จะยื่นไฟล์ลิ่ง โดยมีบริษัท เอพีเอ็ม แอสเซท โปรแมเนจเม้นท์ฯ เป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน
ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,267 วันที่ 4 – 7 มิถุนายน พ.ศ. 2560