กู้บ้านอย่างไร ไม่ให้ดอกเบี้ยบาน
เคยลองคำนวณดอกเบี้ยรวมๆหลังจากที่ผ่อนเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือไม่ครับ เชื่อว่ามูลค่าที่ได้สูงกว่าค่าบ้านอีกครับ เรียกได้ว่าซื้อบ้านได้อีกหลังได้เลยทีเดียว ยิ่งผ่อนนานขึ้น ดอกเบี้ยรวมแล้วยิ่งสูงขึ้นไปอีก เราลองมาดูว่าเราจะมีวิธีที่จะช่วยลดดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายเพิ่มนี้อย่างไรได้บ้าง
การรีไฟแนนซ์บ้าน หรือ การจัดไฟแนนซ์บ้าน คือการกู้ยืมสินเชื่อก้อนใหม่มาแทนสินเชื่อเดิม หรือเรียกง่าย ๆ คือการนำบ้านที่ผ่อนชำระสินเชื่ออยู่ ไปค้ำประกันเพื่อขอสินเชื่อใหม่อีกครั้ง โดยผู้ขอสินเชื่อจะได้เงินก้อนมาปิดภาระสินเชื่อเดิม เพื่อเป็นการลดดอกเบี้ย และอาจมีเงินส่วนต่างมาให้ใช้ยามฉุนเฉินด้วย
ทำไมต้องรีไฟแนนซ์บ้าน ?
- เพื่อให้มีภาระผ่อนชำระน้อยลง ได้อัตราดอกเบี้ยบ้านที่ดีขึ้น
- เพื่อนำส่วนต่างออกมาใช้จ่าย(กู้เพิ่มจากวงเงินเดิม) ทำให้เราได้ส่วนต่างจากเงินก้อนใหม่มาใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ได้
- เพื่อลดดอกเบี้ยที่มักจะเริ่มลอยตัวหลังจากการชำระเงินกู้มาแล้ว 3 ปี
- ในกรณีที่คุณเริ่มรู้สึกว่าผ่อนค่างวดต่อเดือนแบบเดิมไม่ไหว คุณสามารถขอยืดระยะเวลาการกู้ซื้อบ้านออกไปได้จากการทำรีไฟแนนซ์บ้านสิ่งนี้ก็จะช่วยลดภาระค่างวดผ่อนต่อเดือนลงได้
สิ่งที่ต้องทำก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน
- เปรียบเทียบดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร อีกครั้งว่าธนาคารไหนที่ให้ดอกเบี้ยดีที่สุด เช่น แต่ละธนาคารใช้เรทดอกเบี้ยแบบไหน MLR หรือ MRR ถ้าธนาคารเดิมที่กู้อยู่ให้ดอกเบี้ยดีที่สุด แล้ว สามารถขอทำ Retention ขอลดดอกเบี้ยของธนาคารเดิม ได้เลยเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ที่ต้องดำเนินการ
- เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์ด้วยว่าแต่ละธนาคารคิดกับเราอย่างไรบ้าง เช่น ค่าจดจำนอง ค่าประเมินสินทรัพย์ ค่าธรรมเนียม ธนาคารบางแห่งจัดโปรโมชั่น ฟรีค่าใข้จ่ายส่วนนี้ ลองตรวจสอบดูนะคะ
ได้รู้ข้อมูลเบื้องต้นของการรีไฟแนนซ์บ้านกันไปแล้ว หากใครกำลังสนใจรีไฟแนนซ์บ้านใหม่อีกครั้ง ลองโทรสอบถามรายละเอียดและอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารต่าง ๆ ให้ชัดเจน ก่อนตัดสินใจด้วยนะคะ
————————————————————————————————————————————————————————————————————————————————
เรียบเรียงข้อมูลจาก : Sanook.com